4 เรื่องราวที่แสนปวดใจของผู้ที่มีภาวะไตเสื่อมที่นำมาแชร์นี้เป็นเรื่องราวที่รวบรวมจากประสบการณ์จริงของลูกเพจที่มีภาวะไตเสื่อมจำนวนมากซึ่งพบเจอเรื่องราวคล้ายๆกันเพื่อให้ผู้ป่วยไตทุกคนได้เข้าใจจะได้ไม่ตระหนก ไม่หลงทาง และไม่เสียโอกาสในกาiดูแลฟื้นฟูตัวเอง มาดูกันเลยว่า 4 เรื่องราวที่ว่านี้มีอะไรบ้าง
เรื่องที่ 1 : ไม่ทันได้ตั้งตัวมาก่อนมารู้ตัวอีกทีคุณหมอนัดฟอกไตแล้ว
กรณีแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก เริ่มจากคุณหมอบอกว่าไตไม่ดีนะ ดื่มน้ำเยอะๆ คุมอาหารให้ดีลดเค็ม ลดมัน พูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา จนทำให้เราไ่ม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ และโดยมากคุณหมอก็จะไม่บอกด้วยว่าเป็นไตระยะไหน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ทำให้ผู้ป่วยไม่ได้ตระหนัก ไม่ได้เตรียมตัวอะไรในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป จะมารู้ตัวอีกทีเมื่อคุณหมอบอกว่า ไตแย่มากแล้วนะ หมอจะต้องนัดมาทำเส้นเพื่อฟอกไตเตรียมตัวไว้ให้พร้อม
พอมาถึงจุดนี้ตกใจและเป็นกังวลมากกันทุกคน เพราะส่วนใหญ่จะไม่รู้มาก่อนว่าเดินทางมาถึงจุดนี้แล้ว หลายคนก็พยายามจะยื้อไว้สุดความสามารถเพื่อที่จะไ่ม่ต้องฟอกไตมีอยู่เคสหนึ่งผู้ป่วยเพิ่งอายุได้ 22 ปี มารู้ตัวอีกทีคือไตระยะ 5 แล้ว คุณหมอต้องนัดทำเส้นฟอกไต ทำให้ผู้ป่วยเครียดมากเพราะเรียนอยู่จะให้มาล้างไตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง คงลำบาก และผู้ป่วยยังคิดต่ออีกว่าถ้าต้องฟอกไต แล้วเวลาที่ไปสมัครงานจะมีบริษัทไหนที่จะรับคนที่ต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จึงยังไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการฟอกไต
ดังนั้นก่อนจะมาถึงจุดที่ต้องฟอกไต เมื่อรู้แน่แล้วว่าไตเสื่อมเราจะต้องดูแลตัวเอง อย่าหวังพึ่งแต่คุณหมออย่างเดียว ควรทำสิ่งต่อไปนี้
เหตุผลหนึ่งที่สำคัญ ที่ผู้ป่วยไตเสื่อมมักจะไม่นึกถึง นั่นก็คือ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ จะมีส่วนผสมอยู่จำกัด สมมติว่ามีสมุนไพร 5 ชนิด แต่อย่าลืมว่าสมุนไพร 5 ชนิดนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับผู้ป่วยไตทุกคน และผู้ป่วยไตทุกคนก็ตอบสนองต่อสมุนไพรแต่ละชนิดต่างกัน บางชนิดก็อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้หรือผลข้างเคียงต่างๆได้ จึงทำให้ผู้ป่วยไตบางคนทานสมุนไพรแล้วค่าไตกลับลดลงอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นต้องพิจารณาศึกษาข้อมูลให้ดีหากจะทานสมุนไพรเพื่อฟื้นฟูไต และถ้าเริ่มทานแล้ว ก็ให้เฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ก่อนที่สุขภาพไตจะแย่ลงไปกว่าเดิม จนถึง่จุดที่ต้องเข้าสู่กระบวนการฟอกไต
เรื่องที่ 3 : ทานยาเยอะมาก ค่าไตลดลง ไม่ทานยาก็ไม่ได้ เหมือนไตถูกล็อคดาวน์
ผู้ป่วยไตที่น่าเห็นใจที่สุด คือ ผู้ป่วยไตที่ยังมีโรคประจำตัวอื่นๆด้วย เช่น เบาหวาน ความดัน ไขมัน เก๊าท์ เป็นต้น เพราะโรคประจำตัวเหล่านี้จะต้องรักษาด้วยการทานยาทั้งสิ้น ยิ่งคนที่เป็นหลายๆโรคต้องทานยาวันละหลายสิบเม็ด ซึ่งการทานยาเยอะ ก็รู้กันดีว่ามีผลกระทบกับไตอย่างแน่นอน แม้ว่าจะคุมอาหารดีแค่ไหน ค่าไตก็ไ่ม่ดีขึ้น แต่กลับแย่ลงไปทุกวันเหมือนนับถอยหลังรอวันฟอกไตกันเลย ถ้าเลี่ยงได้ก็พยายามทานยาให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้
เรื่องที่ 4 : คุมเข้มเรื่องอาหาร ค่าไตดีขึ้น แต่สุขภาพแย่ลง ซูบผอม ไม่มีแรง
ผู้ป่วยไตที่คุมเข้มเรื่องอาหาร ทานน้อยลงมาก อาหารอร่อยๆที่เคยทานก็ทานไม่ได้ บางคนก็ส่งผลกระทบทางด้านจิตใจ ใช้ชีวิตไม่มีความสุขเหมือนที่เคย แม้ว่าค่าไตจะดีขึ้นแต่ต้องใช้เวลานาน และยิ่งนานวัน ร่างกายก็ยิ่งซูบผอม เหมือนขาดสารอาหาร หมดเรี่ยวแรง จริงๆแล้วการคุมอาหารอย่างเดียวเป็นเพียงแค่ไม่ทานอะไรที่เข้าไปทำให้ไตแย่ลง แต่ไม่ได้กำจัด อนุมูลอิสระ ออก ส่งผลให้ค่าไตนั้นดีขึ้นได้ช้ากว่าที่ควรจะเป็น
เรื่องราวทั้ง 4 เรื่องที่นำมาให้ได้อ่านกันนี้ เป็นเรื่องราวที่ถูกเล่าซ้ำๆโดยผู้ป่วยไตเสื่อมคนใหม่ๆที่ติดต่อเข้ามา เพราะ อยากจะดูแลสุขภาพไตให้ดีขึ้น ไม่อยากที่จะต้องฟอกไต อยากได้ทานอะไรที่อยากทาน และที่สำคัญอยากจะกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติเหมือนที่เคย